ออกเเบบระบบเติมอากาศบริสทธิ์ เพื่อสุขภาพคนที่รัก (Fresh air intake)

 

ประโยชน์ด้านสุขภาพของอากาศบริสุทธิ์ (The Health Benefits of Fresh Air)

ประโยชน์ต่อสุขภาพของอากาศบริสุทธิ์(Fresh air intake)มีมากมาย ทุกเซลล์ในร่างกายของคุณและด้วยเหตุนี้

ทุกการทำงานในร่างกายของคุณจึงอาศัยกระแสออกซิเจนที่สดใหม่อย่างต่อเนื่อง หากคุณอยู่ในอาคารหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเครื่องปรับอากาศเป็นเวลานาน อากาศเดิมสามารถสูดเข้าไปได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้อากาศ
กลายเป็นไอและเหม็นอับ เพียงแค่ก้าวออกไปข้างนอกและ
สูดอากาศบริสุทธิ์ก็สามารถมีประโยชน์
ต่อสุขภาพมากมาย

1. 20% ของออกซิเจนที่คุณหายใจเข้าไปโดยสมองของคุณในการทำงาน การเพิ่มปริมาณอากาศบริสุทธิ์
ที่คุณมีจะช่วยให้สมองมีความชัดเจนมากขึ้น ส่งเสริมการทำงานที่เหมาะสมในขณะที่ช่วยให้คุณคิด มีสมาธิ 

2. การปล่อยเซราโทนิน (Seratonin) ได้รับผลกระทบจากปริมาณออกซิเจนที่คุณมีในเลือด Seratonin
ส่งเสริมความสุขและความเป็นอยู่ที่ดี ดังนั้นยิ่งคุณมีอากาศบริสุทธิ์มากขึ้นเท่านั้น จะช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้น
ได้อย่างมาก นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมคุณถึงรู้สึกดีขึ้น ผ่อนคลายขึ้น และสดชื่นขึ้นมากหลังจากอยู่ข้างนอก

3. อากาศบริสุทธิ์(Fresh air intake)ดีต่อปอดของคุณ เมื่อนั่งอยู่ในบ้าน เป็นเรื่องปกติที่จะหายใจเข้าตื้นๆ โดยสูดอากาศเข้าไป

ในปอดของคุณ หรือที่เรียกว่าการหายใจปลายยอด เมื่ออยู่กลางแจ้ง การเคลื่อนไหว เดิน หรือวิ่งเหยาะๆ
จะช่วยกระตุ้นการหายใจในกระบังลม ซึ่งหมายความว่าคุณหายใจเข้าลึกขึ้นและดึงอากาศลึกเข้าไปในปอด
ของคุณมากขึ้น สิ่งนี้ไม่เพียงแต่นำออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ของคุณมากขึ้น แต่ยังช่วยให้ปอดขับสารพิษในอากาศออกจากร่างกายได้มากขึ้น จึงช่วยชำระล้างจากภายในร่างกาย

4.การหายใจในอากาศบริสุทธิ์(Fresh air intake)สามารถช่วยลดความเจ็บป่วยและการติดเชื้อในอากาศได้ เนื่องจากแบคทีเรียและไวรัสมีโอกาสรอดชีวิตน้อยลงในอากาศบริสุทธิ์ สิ่งนี้เปรียบได้กับสภาพแวดล้อมในร่มที่อบอุ่น ชื้น ซึ่งพวกมันเจริญเติบโต


5.ออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นช่วยปรับปรุงการทำงานและประสิทธิภาพของทุกเซลล์ในร่างกายของคุณซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของทุกสิ่งที่ร่างกายของคุณทำ มีตั้งแต่การผลิตฮอร์โมน การย่อยอาหาร การสร้างเนื้อเยื่อใหม่ การหดตัวของกล้ามเนื้อ ฯลฯ

กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันที่ 21 เมษายน 2562 เวลา 09.00 น. ระบุ มีปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐาน 1 พื้นที่ อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพ ในเขตปริมฑล ที่อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ค่าฝุ่นอยู่ที่ 65 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ มีอีก 5 พื้นที่ที่มีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีเหลือง คุณภาพอากาศปานกลาง และมีบางเขตที่ใกล้จะแตะเส้นมาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ได้แก่ ริมถนนดินแดง เขตดินแดง 49 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน 45 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง 45 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ริมถนนพระราม 3 เขตบางคอแหลม 38 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง 38 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ขณะที่การจัดอันดับคุณภาพอากาศเมืองที่มีมลพิษยอดแย่ทั่วโลก โดย www.airvisaul.com เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2562 เวลา 11.04 น. Air quality and pollution city ranking ระบุ จังหวัดเชียงใหม่ของไทย มีค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ในลำดับที่ 5 ของโลก ที่ 167 AQI และกรุงเทพมหานคร อยู่ในลำดับที่ 10 ของโลก มีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 132 AQI
                                                      
ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร?
คำว่า PM ย่อมาจาก Particulate Matters เป็นคำเรียกค่ามาตรฐานของฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่ PM 10 และ PM 2.5 ส่วนตัวเลข 2.5 นั้นมาจากหน่วย 2.5 ไมครอนหรือไมโครเมตรนั่นเอง 
พูดง่ายๆ คือ ฝุ่น PM 2.5 เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร แขวนลอยอยู่ในอากาศรวมกับไอน้ำ ควัน และก๊าซต่างๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าถึงจะเป็นเพียงฝุ่นละอองขนาดจิ๋ว แต่เมื่อมาแผ่อยู่รวมกันจะกินพื้นที่ในอากาศมหาศาล ล่องลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศปริมาณสูง เกิดเป็นหมอกควันอย่างที่เราเห็นกันฝุ่น PM 2.5 ถือเป็นมลพิษต่อสุขภาพของมนุษย์ตามที่องค์การอนามัยโลกให้ความสำคัญและออกมาแจ้งเตือนให้ทราบ เพราะเป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมาก เส้นผมที่ว่ามีขนาดเล็กแล้ว เจ้าฝุ่น PM 2.5 ยังเล็กกว่าเส้นผมถึง 20 เท่า ทำให้เล็ดลอดผ่านขนจมูกเข้าสู่ปอด และหลอดเลือดได้ง่าย ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว

ฝุ่น PM 2.5 มีผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร?
ฝุ่น PM 2.5 เป็นเจ้าฝุ่นร้ายที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ไม่มีกลิ่น ขนาดเล็กจิ๋วมาก สามารถผ่านเข้าไปในร่างกายเราลึกได้ถึงถุงลมปอด บางส่วนสามารถเล็ดรอดผ่านผนังถุงลมเข้าเส้นเลือดฝอยล่องลอยอยู่ในกระแสเลือด และกระจายตัวแทรกซึมไปทั่วร่างกายของเราได้ ความน่ากลัวของเจ้าฝุ่นร้ายนี้ คือ กระตุ้นให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ลดระบบแอนตี้ออกซิแดนท์ รบกวนสมดุลต่างๆ ของร่างกาย และกระตุ้นยีนที่เกี่ยวข้องกับการหลั่งสารอักเสบ ซึ่งมีอันตรายต่อเนื้อเยื่อในร่างกายของเรามาก แล้วส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา ดังนี้

  • กระตุ้นให้คนที่มีโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังเกิดอาการกำเริบ เช่น โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ โรคหอบหืด และโรคถุงลมโป่งพอง
  • กระตุ้นให้คนที่มีโรคระบบหัวใจและหลอดเลือดเรื้อรังเกิดอาการกำเริบ โดยเฉพาะโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
  • สำหรับผลระยะยาวจะทำให้การทำงานของปอดถดถอย อาจเกิดโรคถุงลมโป่งพองได้แม้จะไม่สูบบุหรี่ก็ตาม และเพิ่มโอกาสทำให้เกิดมะเร็งปอดได้ด้วย     

ทางเราเป็นตัวเเทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเติมอากาศบริสุทธิ์ (The Health Benefits of Fresh Air) 
 ภายใต้เเบรนด์ HOLTOP  

Visitors: 205,927